มัฟฟินสตรอเบอรี่

Posted by: admin

มกราคม 2nd, 2012 >> มัฟฟินสตรอเบอรี่

ก่อนอื่นต้องขออธิบายก่อนนะคะว่ามัฟฟินเนื้อขนมที่ทำออกมาจะไม่นุ่มเหมือนกับเค้กนะคะ จะแข็งๆคลายกับขนมปังซะมากกว่าค่ะ หากผู้ที่ไม่เข้าใจเวลาทำมัฟฟินออกมาแล้วคงจะสงสัยว่าทำไมมันแข็งจังไม่เห็นนุ่มเหมือนเค้กเลย มัฟฟินต้นฉบับจริงๆจะออกเนื้อแข็งๆแบบนั้นล่ะค่ะถูกแล้วฝรั่งเค้าเอาไว้ทานเป็นอาหารเช้าเหมือนๆกับขนมปังค่ะ แต่วันนี้ขอแปลงสูตรมัฟฟินนิดหน่อยเนื่องจากชอบกินแบบนุ่มๆค่ะเลยใช้แป้งเค้กแทนแป้งอเนกประสงค์

ส่วนผสมมีดังนี้ค่ะ

แป้งเอนกประสงค์ 315 กรัม(เปลี่ยนเป็นแป้งเค้กพัดโบกซะขนมจะออกมานุ่มขึ้นค่ะ)
น้ำตาลทราย 120 กรัม
ผงฟู 2 1/2 ช้อนชา
เบคกิ้งโซดา 1/4 ช้อนชา
เกลือ 1/2 ช้อนชา
อบเชยป่น 1 ช้อนชา (ไม่มีเลยไม่ได้ใส่ค่ะแต่ใส่เป็นกลิ่นวนิลาแทนในปริมาณเท่ากัน)
นม 250 มิลลิลิตร
เนยจืด 215 กรัม (มีเนยเค็มก็ใช้เนยเค็มค่ะ)
ไข่เบอร์ 1 จำนวน 2 ฟอง
สตรอเบอรี่แช่แข็ง125 กรัม(กะดูตามความเหมาะสมด้วยค่ะเพิ่มลดได้ตามชอบ ใส่ช่องแข็งเตรียมไว้ค่ะจะใช้ค่อยหยิบออกมา)

ขั้นตอนการทำ

1. วอร์มเตาที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียสไฟบนล่าง เตรียมถ้วยมัฟฟินหรือกระทงกระดาษและถาดอบให้เรียบร้อยวันนี้เราจะมาทดลองกระทงที่เคลือบไขไม่ต้องใช้พิมพ์รองกันค่ะเปรียบเทียบกับใช้พิมพ์รองว่าจะออกมาแตกต่างกันยังไง

2. ผสมของเหลวเข้าด้วยกันโดยเริ่มจากละลายเนยโดยใช้วิธีตุ๋นค่ะเอาน้ำใส่หม้อใบล่างตั้งไฟแล้ววางภาชนะที่มีเนยไว้ด้านบนโดยที่ภาชนะไม่แตะกับน้ำในหม้อด้านล่างคนจนเนยละลายหมดตั้งทิ้งไว้

3. ใส่ไข่ลงในภาชนะอีกใบตีให้เข้ากันแล้วตามด้วยนมคนให้ส่วนผสมเข้ากันจากนั้นนำเนยในข้อ 1 มาผสมรวมกันได้ส่วนผสมของเหลวแล้วพักไว้ค่ะ ใครใส่กลิ่นวนิลาแบบน้ำก็ผสมไปตอนนี้เลยค่ะ

4. มาผสมของแห้งกันต่อ ก่อนอื่นตักแป้งเค้กที่ร่อนแล้วออกมานิดนึงนะคะเอาไว้คลุกกับสตรอเบอรี่เนื้อผลไม้จะได้ไม่จมไปอยู่ที่ก้นหมดตอนอบค่ะ แบ่งแป้งออกมาแล้วนิดนึงจากนั้นก็ใส่แป้งที่เหลือ น้ำตาล เกลือ เบคกิ้งโซดา ผงฟู อบเชย ลงในภาชนะอีกใบคนให้เข้ากันแล้วทำหลุมตรงกลางไว้ค่ะ

5. ผสมส่วนของเหลวและของแห้งเข้าด้วยกันค่ะ ไม่ต้องคนนานจนมันเป็นเนื้อเนียนนะคะเหลือผงขาวๆก้อนๆไว้บ้างก็ได้ค่ะเนียนไปขนมไม่ฟูค่ะคลุกนิดเดียวพอแล้วตั้งพักไว้ซักครู่ค่ะ

6. ระหว่างพักแป้ง หันมาหั่นสตรอเบอรี่แช่แข็งเป็นชิ้นเล็กๆค่ะ(หั่นตอนที่มันยังแข็งอยู่นะคะอย่าตั้งทิ้งไว้จนมันกลายเป็นน้ำนะคะ )

7. นำสตรอเบอรี่แช่แข็งที่หั่นแล้วมาคลุกแป้งที่แบ่งไว้ให้ทั่วๆ เทสตรอเบอรี่ลงไปในอ่างผสมคนให้เข้ากันนิดเดียวให้สตรอเบอรี่ไม่กระจุกตัวรวมกันก็พอค่ะจากนั้นตักใส่กระทงที่เตรียมไว้ได้เลยค่ะ

8. นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 200 องศาไฟบนล่างจะกว่าเค้กจะสุกค่ะ ใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มดูพอสุกเหลืองสวยงามก็เอาออกมาพักบนตะแกรงให้เย็นค่ะ

เทคนิคสำหรับผู้มีเตาอบเล็กและต้องอบหลายรอบ

-          ให้ตักแบ่งส่วนผสมในข้อ 5 ออกเป็นส่วนๆกะให้แต่ละส่วนพอใส่เข้าอบได้ 1 รอบค่ะ

-          สตรอเบอรี่ก็เหมือนกันค่ะแบ่งออกให้เท่ากับจำนวนส่วนผสมแต่ละรอบที่เหลือเอาแช่ช่องแข็งไปค่ะ ที่ต้องทำแบบนี้เนื่องจากหากเราผสมส่วนผสมทั้งหมดไปทีเดียวเลยสตรอเบอรี่ที่รออบในรอบหลังจะละลายและจำทำให้ขนมมีส่วนผสมที่เป็นน้ำมากเกินไปและสีแดงของสตรอเบอรี่ก็จะออกมาทำให้ขนมอบออกมาแล้วสีแดงน่ากลัวมากค่ะยิ่งถ้าเปลี่ยนจากสตรอเบอรี่เป็นบลูเบอรี่แล้วละก็ออกมาดำน่ากลัวเชียวค่ะไม่น่ากินเลย วิธีแบ่งผสมทีละส่วนจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดค่ะขนมออกมาสีสวยแม้จะต้องรออบนานแค่ไหนก็ตามค่ะ

-          เมื่ออบเรียบร้อยแล้วในชุดแรกก็ทำแบบเดียวกันในชุดถัดๆไปค่ะจำไว้ง่ายๆค่ะอย่าให้สตรอเบอรี่แช่แข็งละลายค่ะแต่หากใครใช้สตรอเบอรี่สดอยู่แล้วก็หมดห่วงเรื่องนี้ไปเลยค่ะผสมไปพร้อมกันหมดได้เลย

ด้านล่างนี้เป็นภาพเปรียบเทียบนะคะระหว่างการใช้พิมพ์อลูมิเนียมรองอบอีกทีกับไม่ใช้พิมพ์รองอบ จะเห็นว่าถ้าไม่ใช้พิมพ์รองอบก็ได้เหมือนกันค่ะถ้วยไม่ล้มนะคะแต่เนื้อขนมจะบานออกด้านข้างแทนค่ะ ส่วนกระทงที่รองด้วยพิมพ์อลูมิเนียมอีกทีขนมจะออกมาสูงและปูดกว่าเนื่องจากมีพิมพ์อลูมิเนียมรองเพื่อทำให้กระทงตั้งตรงอยู่ได้ค่ะ

สั่งซื้ออุปกรณ์เบเกอรี่ได้ที่ ร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่