เค้กนมสด (วันนี้ขอยืมสูตรจาก Blog คุณ Beebie ที่ Pantip นะคะ)
เค้กสูตรนี้เป็นสปันจ์เค้กค่ะ ซึ่งลำดับการตีสปันจ์เค้กของแต่ละคนอาจแตกต่างกันตามแต่ความถนัดของแต่ละคนวันนี้จะเป็นการตีสปันจ์เค้กแบบที่ 1 ค่ะคือเทส่วนผสมทั้งหมดในโถแล้วค่อยตีให้ขึ้นฟู แล้วตามด้วยเนยละลายค่ะส่วนแบบอื่นๆจะตามมานะคะอดใจรอกันค่ะ
ส่วนผสม
ไข่ไก่ 3 ฟอง (ใช้เบอร์ 2 ค่ะ)
น้ำตาลทรายบด 120 กรัม (ไม่ชอบหวานตามเคยลดเหลือ 100 กรัมค่ะ)
เอสพี 8 กรัม
แป้งเค้ก 100 กรัม (ใช้แป้งพัดโบกค่ะ)
ผงฟู ½ ช้อนชา
เกลือ ¼ ช้อนชา
นม 50 กรัม
เนย 30 กรัม
กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1. เตรียมพิมพ์ค่ะวันนี้ใช้พิมพ์ขนาด 3 ปอนด์ค่ะปูกระดาษรองอบเตรียมไว้เลยค่ะไม่ต้องทาไขมันใดๆทั้งสิ้น แล้ววอร์มเตาอบไฟล่างที่อุณหภูมิ 180 องศาเหมือนเดิมค่ะ
2. ร่อนแป้งกับผงฟูรวมกัน 2 ครั้งค่ะใส่เกลือลงไปคนให้เข้ากันแล้วพักไว้ค่ะ
3. ตอกไข่ใส่โถผสมค่ะไข่ต้องไม่เย็นนะคะใช้ไข่อุณหภูมิห้องค่ะหากเพิ่งเอาออกมาจากตู้เย็นให้ทิ้งไว้ให้เย็นก่อนค่ะความจริงก่อนเตรียมส่วนผสมอื่นๆแนะนำให้เอาไข่ออกมาวางรอไว้ก่อนเลยค่ะกว่าจะเตรียมส่วนผสมอื่นๆเสร็จไข่ก็น่าจะหายเย็นพอดี
4. เอาเอสพี ปาดที่หัวตระกร้อไว้ค่ะ ปกติทำสปันจ์จะใส่เอสพี ตลอด ไม่เคยลองทำแบบไม่ใช้เอสพี ด้วยซิเอาไว้วันหลังจะลองหาสูตรแบบไม่ใส่เอสพี ดูนะคะว่าตียากกว่ากันหรือเปล่า
5.ตีไข่กับเอสพี สักพักพอให้ไม่เห็นเอสพี เป็นก้อนๆนะคะแล้วตามด้วยน้ำตาลทรายค่ะทยอยใส่ลงไปแล้วตีด้วยความเร็วปานกลางพอเข้ากันให้น้ำตาลละลาย
6. ลดความเร็วลงต่ำแล้วทยอยใส่แป้งลงไปค่ะอย่าใส่ทีเดียวเยอะนะคะเดี๋ยวจะแป้งฟุ้งไปทั่วบ้าน ตีความเร็วต่ำไปจนแป้งไม่ฟุ้งขึ้นมาแล้วก็หยุดค่ะปาดอ่างสักหน่อย
7. ตอนนี้เราพักส่วนผสมในโถเอาไว้ก่อนแล้วไปเตรียมทำเนยละลายกันค่ะใส่เนยกับนมลงในถ้วยที่เข้าไมโครเวฟได้ค่ะเปิดที่ไฟแรงสุดสัก 1 นาทีพอค่ะ ตั้งเวลาไว้แล้วตอนนี้ทิ้งเนยไว้ก่อนไปตีส่วนผสมต่อกันเลยค่ะ
8. ตีส่วนผสมด้วยความเร็วสูงปาดอ่างทุก 3 นาทีค่ะปาดบ่อยหน่อยจะได้เข้ากันเผื่อด้านล่างนอนก้น ตีประมาณ 6 นาทีค่ะให้ได้เป็น Ribbon Stage ค่ะสังเกตได้จากส่วนผสมจะฟูขึ้นกว่าเดิม 3 เท่าค่ะพอยกหัวตีขึ้นแล้วส่วนผสมจะพับทบไปมาเป็นชั้นๆได้ค่ะตามภาพ เมื่อตีได้ที่แล้วก็ตีความเร็วต่ำตัดฟองอากาศค่ะ
9.ระหว่างที่ตีอยู่อย่าลืมมาดูเนยที่ละลายไว้นะคะดูว่าละลายหมดหรือเปล่าถ้าไม่หมดก็อบต่ออีกครึ่งนาทีค่ะถ้าละลายหมดแล้วก็ปล่อยไว้ในไมโครเวฟก่อนจะใช้ค่อยเอาออกมาจะได้ไม่เย็นเกินไปไม่ร้อนเกินไปค่ะ
10. ต่อเลยนะคะเมื่อตีส่วนผสมเรียบร้อยก็เอาเนยออกมาจากไมโครเวฟเลยค่ะลองเอานิ้วจิ้มดูต้องอุ่นๆไม่เย็นเกินไปนะคะ ทยอยใส่เนยเป็นสายลงไปค่ะตีด้วยความเร็วปานกลางจนเนยหมดแล้วปาดอ่างก่อนค่ะ จากนั้นทยอยใส่กลิ่นวนิลาแล้วตีต่ออีก 2 นาทีแล้วปาดอ่างอีกรอบค่ะ ดูด้วยนะคะให้แน่ใจว่าไม่มีสีเหลืองๆของเนยเหลืออยู่เพราะถ้ามีมันจะเป็นไตค่ะหมั่นปาดอ่างบ่อยๆดีที่สุดโอกาสเค้กเป็นไตจะลดลงค่ะ (สารภาพว่าเริ่มทำสปันจ์เค้กครั้งแรกเป็นไตค่ะเททิ้งกันเลยทีเดียวกว่าจะทำใจได้ตั้งนานไม่กล้าตีเลยค่ะทำแต่ชิฟฟ่อนจนลองทำตามแม่สลิ่มที่ตีอีกแบบนะคะไม่ใช่แบบวันนี้ ทำตามทุกขั้นตอนเลยจับเวลาอีกต่างหากแล้วผลออกมาไม่เป็นไต เลยมีกำลังใจหน่อยจากนั้นก็ไม่เป็นไตอีกเลยค่ะรักษาหายขาดแล้ว ปัจจัยหลักน่าจะอยู่ที่อุณหภูมิของเนยละลายกับการหมั่นปาดอ่างค่ะไม่ให้มีเนยนอนก้นอยู่) ตีต่ออีก 1 นาทีพอค่ะปาดอ่างครั้งสุดท้ายลองยกหัวตีดู Ribbon Stage ยังอยู่
11. เทใส่พิมพ์แล้วเอาเข้าเตาอบเลยค่ะ แล้วก็นั่งรอไปจนเค้กสุกไม่ได้จับเวลาอีกเช่นเคย ดูเนื้อเค้กเอาค่ะกะให้ฟูเต็มที่ก่อนนะคะห้ามเปิดเตาตอนเค้กกำลังขึ้นฟูเพราะมันอาจจะยุบลงได้ค่ะ เมื่อเห็นว่าหน้าเค้กเริ่มตึงๆลองเอาไม้จิ้มดู เค้กไม่ติดมาก็ใช้ได้ค่ะแต่สียังไม่สวย อบไฟบนล่างอีกซักหน่อยให้สีสวยๆค่ะอบน้อยไปเอาออกมาเค้กอาจหดค่ะมันยังสุกไม่เต็มที่ เคยเจอมาหมดแล้วค่ะหดเหลืออันนิดเดียวเองน่าอายมากค่ะอบให้สุกพอดีๆนะคะไหม้เกินก็แห้งไปอีกไม่อร่อยค่ะ
12. อบได้ที่แล้วเอาออกมาวางไว้บนตระแกรงซักพักค่ะให้พิมพ์เย็นลงหน่อยแล้วค่อยแซะออก แล้วคว่ำเค้กลงบนตระแกรงผึ่งให้เย็นสนิทค่ะอย่าลืมลอกกระดาษรองอบออกด้วยค่ะ
ไหนลองดูก้นเค้กซิวันนี้ก้นเค้กไม่เป็นไตผ่านค่ะทำขั้นตอนต่อไปกันเลย
13. นำเค้กมาสไลด์ค่ะกี่ชั้นก็ตามต้องการค่ะ
แล้วปาดด้วยวิปปิ้งครีมค่ะวันนี้ใช้ Rich Gold Lable ค่ะมีอยู่ในตู้พอดีวิปปิ้งแบบ non-daily (ครีมเทียมทำจากไขมันปาล์ม) มันเก็บไว้ได้นานค่ะตีง่ายกว่าแบบ daily ซึ่งเป็นครีมนมสด ดูวิธีตีวิปปิ้งครีมแบบ non-daily ได้ที่ การตีวิปปิ้งครีมแบบ non-daily ค่ะ วางเค้กชั้นที่เหลือทับลงไปแล้วตกแต่งตามต้องการค่ะ
ฝีมือการแต่งเค้กอาจจะยังไม่ค่อยดีกำลังฝึกอยู่ค่ะสักวันต้องเป็นวันของเราค่ะ
ตัดแบ่งสักหน่อย
อีกซักรูป
Tag: อุปกรณ์เบเกอรี่,เอสพี,ผงฟู ,พิมพ์ขนาด 3 ปอนด์,กระดาษรองอบ
สั่งซื้ออุปกรณ์เบเกอรี่ได้ที่ ร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่